โคดี กัคโป แนวรุกฟอร์มแรง ฮอลแลนด์ เปิดใจผ่านสื่อ หลังเป็นข่าวกับ แมนยู

โคดี กัคโป กองหน้าแล้วก็ปีก ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ สังกัด พีเอสวี ยอมรับว่าตนกระปรี้กระเปร่าไม่น้อยที่เป็นข่าวกับทีมใหญ่ แต่ตอนนี้ขอจุดโฟกัสกับ ฟุตบอลโลก 2022 ก่อน

กัคโป กำลังทำผลงานได้อย่างดีเลิศให้กับ พีเอสวี แล้วก็ทีมชาติในฤดูกาลนี้ จนทำให้เขาได้รับความสนใจจากหลายทีมดังในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จ้องมาตั้งแต่เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว

“ผมไม่ได้เขินอายอะไรกับข่าวโคมลอย แต่มันเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม ไม่ใช่ของคนคนเดียว ผมถูกใจเล่นเป็นทีม มันเป็นเรื่องดีที่ผู้คนเขียนถึง แต่ผมไม่ได้ค่อยกังวลกับเรื่องเหล่านี้มากนัก”‬ กัคโปกล่าว

“ตอนนี้ผมจุดโฟกัสกับฟุตบอลโลก มันเป็นเรื่องดีที่ได้ยิน แต่ผมขอจุดโฟกัสกับบอลโลกแล้วก็ทำมันให้ดีที่สุด”‬

สำหรับกัคโป ซัดไปแล้ว 5 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่นให้กับ อัศวินสีส้ม 11 นัด แล้วก็ยิงไปแล้ว 2 ลูก ในศึก ฟุตบอลโลก 2022

โคดี กัคโป

รู้จัก โคดี้ กัคโป นักฟุตบอลร่างยักษ์ ความสามารถครบเครื่อง ที่กำลังมองหาทีมเล่นในพรีเมียร์ลีก

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในปี 2007 เมื่อทีมชุดเยาวชนของสโมสร พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (PSV Eindhoven) ในลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ ตัดสินใจรับเด็กอายุ 8 ขวบที่ชื่อว่า โคดี้ กัคโป(Cody Gakpo) เข้าสู่ทีม

แรกเริ่ม เยาวชนชาวดัตช์เชื้อสายกาน่าคนนี้ ถูกจับให้เล่นบริเวณเกมรุกฝั่งซ้าย โดยอาศัยร่างกายที่แข็งแรง แล้วก็การเข้าทำประตูที่หลากหลายทั้งยังในฐานะตัวจ่ายแล้วก็ตัวจบสกอร์ ส่งผลให้เขาติดชุดสำรองของสโมสรในปี 2017 ก่อนที่จะทำได้ 7 ประตู 5 แอสซิสต์ในฤดูกาล 2017/2018 แล้วก็ 10 ประตูในฤดูกาล 2019 ก่อนที่ช่วงกลางฤดูกาลจะถูกดันขึ้นมาเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ของสโมสรในเวลาต่อมา

อะไรคือเทคนิคความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ของนักฟุตบอล ลูกหม้อของสโมสรพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน เรื่องนี้ ธีโอ แจนเซน (Theo Janssen) อดีตกองกลางคนเนเธอร์แลนด์ เคยกล่าวกับสื่อว่า ‘เด็กคนนี้จะกลายเป็นอนาคตของวงการฟุตบอล’ เนื่องมาจากเขาเป็นนักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบที่สุด มีทุกอย่างที่นักฟุตบอล แผงรุกควรจะมี

อันดับแรกคือร่างกาย ที่ดีเลิศ ด้วยความสูง 193 เมตร น้ำหนักอยู่ในช่วงระหว่าง 70-75 กิโลกรัม ร่างกายเต็มไปด้วยผูกกล้ามเนื้อ แน่นอนว่ากัคโป สามารถต่อกรกับผู้เล่นเกมรับที่มักมีร่างกายสูงใหญ่ได้สบาย ทั้งยังในแง่ของการเข้าปะทะแล้วก็เล่นลูกกลางอากาศ แต่ที่น่าสนใจคือกัคโปเป็นผู้เล่นที่มีศูนย์ถ่วงช่วงล่างแข็งแรง ก็เลยทำให้บ่อยครั้งในการแข่งขัน หากแม้เขาจะถูกแทรก ดึง ผลัก แต่ก็ยังสามารถครองลูกฟุตบอล ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ตัวเขามีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมได้อย่างมาก

เมื่อเล่นในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย กัคโป เป็นผู้เล่นที่มีสไตล์โดดเด่นแล้วก็หลากหลายในเวลาเดียวกัน เขาสามารถพาไปบอลไปริมเส้นก่อนเปิดบอลเข้าในพื้นที่กรอบเขตโทษให้เพื่อน หรือสามารถวิ่งตัดเข้าภายในกรอบเขตโทษ แล้วก็ปั่นบอลด้วยเท้าขวาข้างถนัดเพื่อทำประตูได้เช่นกัน

แต่ถ้าเกิดเทียบโดยสถิติแล้ว รูปแบบการเล่นที่อันตรายที่สุดสำหรับกัคโปคือการทำประตูจากหน้ากรอบเขตโทษ บริเวณช่องว่างระหว่างในการยืนตำแหน่งของกองกลางแล้วก็กองหลัง ซึ่งเป็นจุดที่เขาใช้สร้างโอกาสทำประตูอยู่บ่อยครั้ง อ้างอิงค่าโอกาสเป็นไปได้ในการทำประตู (xG) จาก 126 ลูกล่าสุดที่เขาสามารถทำได้ ค่า xG เฉลี่ยในจุดดังกล่าวมีค่ามากถึง 15.3 xG

แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้เล่นที่มีทักษะในการดวลแล้วก็เอาชนะกองหลังแบบ 1 ต่อ 1 ได้ดีเท่าที่ควรจะ แต่ด้วยรูปร่างแล้วก็ความแข็งแกร่งที่มากพอ กัคโปยังสามารถครองบอลแล้วก็พักบอล รอผู้เล่นคนอื่นวิ่งเข้าตำแหน่ง ก่อนที่ตัวเขาจะเลือกได้ว่าจะเข้าทำเกมรุกในรูปแบบใด ทั้งยังการเปิดบอล เลี้ยงเข้ากรอบ หรือตัดเข้ากลางสนามแล้วก็ยิง

ทั้งหมดนี้คือความเป็นไปได้ที่คาดทายใจได้ยากของนักฟุตบอลรายนี้

แนวรุกฟอร์มแรง ฮอลแลนด์

การจบสกอร์ไม่ใช่อาวุธเดียวของกัคโป

ในลีกเอเรอดีวีซี (Eredivisie) กัคโปนับว่าเป็นผู้เล่นคนหนึ่งที่มีทักษะในการเปิดบอลแล้วก็เล่นลูกตั้งเตะได้อย่างดีเยี่ยม เขามีค่าเฉลี่ยในการสร้างโอกาสทำประตูจากลูกตั้งเตะได้ 1.37 ต่อ 90 นาทีในฤดูกาลที่แล้ว แล้วก็มากขึ้นเป็น 3.25 ในฤดูกาลปัจจุบัน แล้วก็มีโอกาสเล่นลูกเปิดบอลจากข้างสนาม 1.98 ต่อ 90 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แล้วก็ 1.89 ฤดูกาลปัจจุบ้น

เขาสามารถจ่ายบอลในช่วงการเข้าทำ 3 จังหวะสุดท้ายได้อย่างแม่นยำ มีแบบแผน แล้วก็อ่านสถานการณ์ของเกมได้อย่างเด็ดขาด นอกจากการผ่านบอลจากข้างสนามตามแผนที่ซ้อมกันมาของทีมแล้ว บ่อยที่กัคโปตัดสินใจเลือกที่จะไม่เปิดบอลแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าเกิดเห็นว่าผู้เล่นในกรอบเขตโทษมีโอกาสทำประตูได้น้อย เขาก็มักเลือกไปเซ็ต รูปเกมใหม่ที่แดนกลาง จุดนี้นับว่าเป็น ‘ความนิ่ง’ ของนักฟุตบอลที่หาได้ยากสำหรับผู้เล่นที่มีอายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งชั้นหนึ่งของยุโรป ในฤดูกาลนี้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยในการมีส่วนร่วมการทำประตูทั้งยังการยิงแล้วก็แอสซิสต์ถึง 1.68 ประตู เป็นรองเพียงแค่ เออร์ลิง ฮาลันด์ (Erling Haaland) ยอดเยี่ยมดาวรุ่งของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตีเพียงแค่เท่านั้น ก็เลยเป็นเหตุให้ในช่วงที่ผ่านมามีหลายสโมสรยื่นข้อเสนอให้เขาเป็นจำนวนมาก

เพราะเหตุใดอาร์เซนอลก็เลยเป็นทีมที่มีโอกาสได้ กัคโปร่วมทีมมากที่สุด
อ้างอิงจากเว็บไซต์ Goal.com เปิดเปิดเผยว่าทีมในลีกอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ทอตนัม ฮอตสเปอร์ แล้วก็อาร์เซน่อล ให้ความสนใจกับนักฟุตบอลพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน รายนี้เป็นอย่างมาก

สำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในการดึงตัวกัคโปนั้น ทางด้าน จอห์น เดอ ยอง (John de Jong) ผู้อำนวยการของพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ได้ทำการเปิดเปิดเผยว่าข้อเสนอดังกล่าวล้มเหลว แล้วก็ที่ผ่านมายังมีสโมสรเซาท์แธมป์ตัน แล้วก็ ลีดส์ยูไนเต็ด ที่ยื่นข้อเสนอไป แต่สุดท้ายดีลการซื้อขายก็ไม่เกิดขึ้นเช่นกัน

เมื่อถามหาความเป็นไปได้ในการร่วมทีม มีหลายสื่อวิเคราะห์กันว่า สโมสรอาร์เซนอลมีโอกาสจะเป็นทีมที่กัคโปอยากร่วมทีมด้วยมากที่สุด

ฮอลแลนด์

อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์กับ The Sun กัคโป

กล่าวว่ามีความต้องการจะเล่นในพรีเมียร์ลีกจริง โดยตนไม่ได้รู้สึกชื่นชอบทีมใดเป็นพิเศษ แต่แต่ว่ามีไอดอลเป็น เธียร์รี่ อองรี(Thierry Henry) อดีตผู้เล่นคนสำคัญของสโมสรอาร์เซนอล เนื่องมาจากเป็นผู้เล่นในตำแหน่งริมเส้นที่มีความสูงเหมือนกับเขา

อีกทั้งอาร์เซนอลกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเลือดของเกมรุก หลังจากการย้ายทีมของ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ (Pierre-Emerick Aubameyang) แล้วก็ อาแล็กซ็อง ลากาแซ็ต (Alexandre Lacazette) ด้วยเหตุดังกล่าว การได้ผู้เล่นแนวรุกอีกคนมาประสานงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆก็เลยเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาสำหรับกุนซื้ออาร์เซน่อลอย่าง มิเกล อาร์เตต้า ( Mikel Arteta) สำหรับการพาทีมไปสู่การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในขณะที่ปัจจุบัน อาร์เซนอลเป็นจ่าฝูงแล้วก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีเลิศ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัญญาของ กัคโปกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน จะหมดลงในปี 2026 ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าเกิดต้องการคว้าตัวนักฟุตบอลรายนี้ในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม 2023 มีการประเมินว่าต้องใช้เงินทุ่มซื้อกว่า 40 ล้านปอนด์ สำหรับผู้เล่นในวัย 23 ปี เลยทีเดียว

บทสรุปสุดท้ายก็เลยต้องมาลุ้นกันต่อว่า สโมสรใดจะสามารถคว้าตัวยอดดาวรุ่งคนนี้ไปวาดลีลาลูกหนังในลีกได้ในอนาคตข้างหน้า