Category ข่าวกีฬา

เจา คันเซโล่ ดีลฟ้าผ่า

ดีลฟ้าผ่า !! “คันเซโล่” ถึงเยอรมนีเตรียมเปิดตัวซบ “บาเยิร์น"

เจา คันเซโล่ เดินทางถึงเยอรมนี เพื่อตระเตรียมเปิดตัวย้ายซบ“บาเยิร์น” แบบยืมตัวพร้อมอ็อปชั่นซื้อขาดไว้ที่ 70 ล้านยูโร

เจา คันเซโล่แนวรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินทางถึงเยอรมนี แล้วเพื่อเข้ารับการ ตรวจร่างกาย จัดแจงย้ายซบ บาเยิร์น มิวนิค
ด้วยสัญญา ยืมตัวยาวจนจบฤดูกาล โดยสื่อคาดกันว่า ดีลนี้มีอ็อปชั่นซื้อขาดไว้ที่ 70 ล้านยูโร (61.6 ล้านปอนด์)

สำหรับแข้งวัย 28 ปีเคยเป็น ตัวหลักของ “เรือใบสีฟ้า” และมีส่วน สำคัญในความสำเร็จ ของสโมสร อย่างไรก็ตามช่วงหลัง
บทบาทลดลงรวมทั้งได้ออกสตาร์ท ไปเพียงแต่ 3 นัดนับตั้งแต่ ฟุตบอลลีก กลับมาแข่งต่อ ในเดือนธันวาคม

นอกจากนั้นยังมีรายงานว่าตัวนักเตะมีปัญหากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ปรึกษาของทีมด้วย

แบบนี้ไม่น่าพลาด 2 นักข่าวดังโหม “คันเซโล” ย้ายจาก “แมนซิตี้” ซบ “บาเยิร์น”

ไม่น่าพลาด 2 ผู้สื่อข่าวดังโหม “เจา คันเซโล” ฟูลแบ็กสายลุย เลือดฝอยทอง เตรียมย้ายจาก “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ไปซบ “บาเยิร์น มิวนิก” ยอดทีมแห่งเมืองเบียร์

วันที่ 30 ม.ค. 66 ไม่น่าพลาดแล้วแบบนี้ 2 ผู้สื่อข่าวดังโหม ฟาบริซิโอ โรมาโน และก็ เดวิด ออนสตรีน
2 ผู้รายงานข่าวดังของโลก ที่มีความน่าเชื่อใจสูง ออกมารายงานว่า เจา คันเซโลฟูลแบ็กชาวโปรตุเกส
จัดแจงย้ายจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ ชาวสเปน ไปซบ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก ยักษ์ใหญ่ บุนเดสลีกา เยอรมนี

ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อกันว่า ยอดทีมจากคา อัลลิอันซ์ สเตเดียม ต้องการดึงตัว เจา คันเซโลไปทดแทน นุสซาอีร์ มาซราอุย ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งไว้รอตอบแทน แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ที่คาดว่าจะย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาล 2022-23 นี้ โดยมีปลายทางคือ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา สโมสรดังจาก ลาลีกา ประเทศสเปน

รายงานล่าสุด บอกว่าเวลานี้การบอกคุยกัน ระหว่างทั้งสอง สโมสรใกล้ได้บทสรุป เนื่องจากว่าไปขั้นตอนสุดท้าย
ในการเจรจาแล้ว โดยถ้าหากว่าดีลสำเร็จลุล่วง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก ก็จะให้นักฟุตบอลตรวจร่างกาย
แล้วก็พร้อมที่จะเซ็นสัญญาถัดไป โดยพื้นฐานอาจเป็นดีลยืม ตัวหรืออาจเป็นดีล ที่ซื้อขาดถาวร

บาเยิร์น เจา คันเซโล่

เปิดประวัติ.! ชูเอา คันเซโล่ ฟูลแบ็กจอมบุกของ แมนฯ ซิตี้ รวมทั้ง โปรตุเกส

ทำความรู้จักประวัติของ ชูเอา คันเซโล่ฟูลแบ็กจอมบุกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ทีมชาติโปรตุเกส ที่ทำผลงานได้อย่างสุดยอดอย่างมากในเวลานี้
แล้วก็เป็นคนสำคัญ ที่อีกทั้งสโมสร และทีมชาติ ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว

ประวัติ ชูเอา คันเซโล่ฟูลแบ็กจอมบุกของ แมนฯ ซิตี้ และ โปรตุเกส

ตลอดช่วงหลายปี ที่ผ่านมานั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ ประสบความสำเร็จ อย่างมาก ซึ่งสาเหตุสำคัญ มาจากการที่พวก เขามีตัวเลือกชั้นเยี่ยมหลายราย และก็ ชูเอา คันเซโล่ดาวเตะชาวโปรตุกีสก็เป็น หนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน

ข้อมูลส่วนตัว ชูเอา คันเซโล่
ชื่อเต็ม : ชูเอา คันเซโล่ ( Joao Pedro Cavaco Cancelo )
เกิด : 27 เดือนพฤษภาคม 1994 เมืองบาร์เรยโร่ ประเทศโปรตุเกส
อายุ : 28 ปี
ความสูง : 182 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : ฟูลแบ็ก, วิงแบ็ก

เส้นทางลูกหนัง
คันเซโล่เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังด้วยการเล่นให้ บาร์เรยเรนเซ่ สโมสรในย่านท้องถิ่น ซึ่งสุดท้ายฝีเท้าของเขาไปเข้าตาแมวมองดูของ เบนฟิก้า
ทีมดังของประเทศ จนทำให้เขา ได้เข้าสู่อะคาเดมี่ตอนปี 2007 ด้วยวัย 13 ปี

หลังจากฝึกฝีเท้ากับ เบนฟิก้า อยู่พักหนึ่ง คันเซโล่ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2012 โดยเป็นเกมอุ่นเครื่องกับ ชิล วิเซนเต้
ซึ่งเขาได้ลงเล่นเต็มเกม แต่หลังจากนั้นเขาต้องวนเวียน สั่งสมประสบการณ์ กับทีมสำรองของ เบนฟิก้า ต่อ

กระทั่งเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2014 คันเซโล่ได้ลงเล่นเกม แบบเป็นทางการให้กับ เบนฟิก้า เป็นครั้งแรก โดยถูกเปลี่ยน ลงสนามในช่วงท้ายเกม ซึ่งมันเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกิน
ที่คู่แข่งใน วันนั้นก็คือ ชิล วิเซนเต้ แบบเดียวกัน โดยเกมนั้น เบนฟิก้า ชนะไป 1-0

ช่วงสิงหาคม 2014 บาเลนเซีย ยื่นข้อเสนอยืม คันเซโล่ไปร่วมกองทัพ พร้อมมีอ็อปชั่นซื้อขาดที่ 15 ล้านยูโร โดยเขาได้ประเดิมสนามกับทีมในเกมลา ลีกา
เมื่อวันที่ 25 เดือนกันยายน โดยเขาได้ลงเล่นแบบ เต็มเกมช่วยให้ทีมชนะ กอร์โดบา 3-0 และก็สุดท้ายใน ฤดูกาล 2014-15 บาเลนเซีย ได้อันอับ 4
ในลีกจน ได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งนั่นส่งผลให้ บาเลนเซีย ใช้อ็อปชั่นซื้อขาด กานเซโล่ ไปด้วย แม้ว่าซีซั่น
นั้น กานเซโล่ จะได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 13 นัดจากทุกรายการก็ตาม

ฤดูกาล 2015-16 คันเซโล่กลายเป็นตัวหลัก ของทีมอย่างเต็มตัว โดยเขาได้ลงเล่นไป 39 นัดจาก ทุกรายการ พร้อมกับทำได้ 3 ประตู
ขณะที่ซีซั่นต่อ มาเขายังรักษาตำแหน่ง ตัวจริงได้จนถึงลงเล่นไปถึง 38 เกมจากทุกรายการ

ดีลฟ้าผ่า บาเยิร์น

ผลงานทีมชาติ

คันเซโล่เล่นให้กับทีมเยาวชนของ โปรตุเกส หลายรุ่น โดยช่วงที่ผลงานเด่นที่สุดคงจะหนี ไม่พ้นชุดรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ที่เขากับทีมไปถึงนัดชิงชนะเลิศของศึก ยูโร ปี 2015 ได้
ก่อนที่จะแพ้ ประเทศสวีเดน ในช่วงดวลจุดโทษ

ส่วนกับทีมชาติชุดใหญ่นั้น คันเซโล่ถูกเรียกติดทีม ครั้งแรกเมื่อช่วง สิ้นเดือนส.ค. 2016 รวมทั้งได้ลงเล่นครบ 90 นาที
ในเกม อุ่นเครื่องที่ชนะ ยิบรอลตาร์ 5-0 เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ของปีเดียวกัน โดยเขาเป็นคนทำลูกที่ 3 ให้กับทีมในวันนั้นด้วย

กุน ขแมร์ กีฬาพื้นบ้าน

ดราม่า "กุน ขแมร์" ย้อนดูกีฬาพื้นบ้านที่ถูกบรรจุในซีเกมส์ จนเป็นเรื่องปกติ

กลายเป็นดราม่า มวย ที่ผู้จัดงานจะเปลี่ยนชื่อเป็น “กุน ขแมร์” ในซีเกมส์ 2023 ซึ่งที่จริงแล้วกีฬาชนิดนี้ คือกีฬาพื้นบ้านที่เจ้าภาพนั้นหวังจะโกยเหรียญทองเพื่ออันดับที่ดีที่สุด

จากกรณีที่ กัมพูชา เจ้าของงานจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ระหว่างวันที่ 4-17 พ.ค. จะมีการจัดแข่งขันมวย ที่จะใช้ชื่อว่า “กุน ขแมร์” กีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของประเทศภายใต้องค์กรที่ตั้งขึ้นเองที่มีชื่อว่า สหพันธ์กุน ขแมร์นานาชาติ

เพื่อดูแลการแข่งขันซีเกมส์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซึ่งทางด้านสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) ชี้ว่าองค์กรและก็กีฬาชนิดนี้ของกัมพูชา ไม่ได้เป็นกีฬาที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รวมทั้งสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)

ทำให้ไทยไม่สามารถส่งแข่งขันได้ เพราะว่าผิดกฎระเบียบการแข่งขัน ไทยก็เลยตัดสินใจไม่ส่งนักมวยไปแข่งขัน

กลายเป็นดราม่า มวย กุน ขแมร์

ไม่เพียงแค่แต่การที่จะเปลี่ยนชื่อ การจัดแข่งขันมวยที่จะใช้ชื่อว่า “กุน ขแมร์”

แต่หากลงรายละเอียด ในการเป็นเจ้าภาพ เป็นเรื่องปกติที่ชาติเจ้าของงานพร้อมใส่กีฬาพื้นบ้าน เพื่อโอกาสที่จะได้โกยเหรียญรางวัลให้เพิ่มมากขึ้น แล้วก็บางครั้งอาจมีผลต่อการครองเจ้าเหรียญทอง ซึ่งซีเกมส์ของกัมพูชา นั้นยังได้มีการบรรจุ คุน ละบ๊อกกาตาว (Lbokkator หรือ Bokator)

และก็ “กุน ขแมร์” (มวยเขมร) KUN KHMER ที่เป็นกีฬาพื้นบ้านของอยู่ในการประกวดเหรียญทอง ยังไม่นับรวมกีฬา หมากรุกเขมร หรือ ศิลป์การต่อสู้เกาหลี ซึ่งในซีเกมส์คราวนี้ยังจัดว่ามีการชิงชัยเหรีญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 608 เหรียญทอง จาก 40 ชนิดกีฬาด้วยกัน

คุน ละบ๊อกกาตาว (Lbokkator หรือ Bokator) ที่แปลเป็นภาษาพื้นบ้าน แสดงว่า “ทุบสิงโต” เป็นมวยเขมร รุ่นเฉพาะที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีลักษณะการต่อสู้ แบบตัวต่อตัว พร้อมด้วยการใช้อาวุธอย่างหนัก ศอกแล้วก็เข่า การเตะหน้าแข้ง แล้วก็การต่อสู้บนพื้นที่ หลากหลาย แล้วก็จะมีสีรอบเอวเพื่อแสดงถึงระดับของพวกเขา

ชั้นแรกเป็นสีขาว ตามด้วยสีเขียว น้ำเงิน แดง น้ำตาล รวมทั้งสุดท้ายเป็นสีดำ ยิ่งกว่านั้น ยังมีการสวมสาย ที่เป็นผ้าไหม รอบศีรษะ ศิลปะชนิดนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือ มรดกทางวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2022

ขณะที่กุน ขแมร์ (มวยเขมร) KUN KHMER หรือชื่อที่เรียก อย่างเป็นทางการ Kbach Kun Pradal Khmer ที่มีความหมายว่า “การต่อสู้อย่างอิสระ” มีลักษณะคล้าย กับยูโด แต่ไม่ใช่คาราเต้ เป็นรูปแบบคิกบ็อกซิ่งที่สืบเชื้อสาย มาจากเทคนิคการต่อ สู้ของเขมรในยุคแรก การต่อสู้มีเป้าหมายคือ ทำให้คู่ต่อสู้ น็อค ทางเทคนิคหรือชนะ การแข่งขันด้วยคะแนน รวมทั้งมักจะใช้ศอกในการน็อกมากที่สุด

กุน ขแมร์

ย้อนไปใน การแข่งขันซีเกมส์ 2021 หรือครั้งที่ 31 ซึ่งเวียดนามเป็นเจ้าภาพ

ก็ได้มีการบรรจุกีฬาพื้นบ้านที่ ธรรมนูญซีเกมส์ ซึ่งกำหนดโดยสหพันธ์ กีฬาซีเกมส์ ได้ให้ประเทศเจ้าของงานจัดแข่งได้ 8-12 ชนิดกีฬา นั่นก็คือ โววีนัม,ฟินสวิมมิ่ง, หมากรุก,หมากรุกจีน และก็ มวยปล้ำ

ไม่เพียงแต่ แต่ 2 ชาติที่กล่าวมา ย้อนไปในปี กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 14 หรือในปี 2007 อินโดนีเซีย ได้นำ “ปันจักสีลัต” หรือ ศิลปะการป้องกันตัวที่คนเชื้อสายมาลายู ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านชนิดแรก ๆ เข้ามาให้แข่งขันและก็เผยแพร่ให้ชาติอาเซียน ได้ชิงชัยกัน

ด้าน ฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 23 รวมทั้ง 30 ก็ได้นำศิลป์การ ต่อสู้ประจำชาติ อย่าง อาร์นิส ที่่เป็นการต่อสู้และการป้องกันตัวโดยการใช้อาวุธประเภทต่าง ๆ อาทิ มีดสั้น, ท่อนไม้ และดาบ เข้ามาประกวดเหรียญทอง

หรือถึงแม้แต่ เมียนมา ที่เป็นเจ้าภาพในครั้งล่าสุดในปี 2013 ก็ได้นำ ชินลง หรือ ที่เหมือน ตะกร้อวงในบ้านพวกเรา แต่เป็นลีลาท่าทางสไตล์เมียนมา เข้ามาบรรจุในการแข่งขัน

ขณะที่ประเทศไทย อย่างพวกเรา ที่ผ่านมา แม้ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพ กีฬามวยไทย ก็ถือว่าอยู่ในข่าย ที่จะถูกนำมาใส่เพื่อโกยเหรียญทองในการไปสู่เป้าหมายเช่นเดียวกัน

ลิเวอร์พูล

แข้งใหม่ ลิเวอร์พูล? เอเยนต์ กราเฟนแบร์ก โผล่ดูเกมที่ แอนฟิลด์

แฟนบอล ลิเวอร์พูล ลุ้นระทึกกันแล้วหลังจากเอเยนต์ของ ไรอัน กราเฟนแบร์ก มิดฟิลด์ทีม บาเยิร์น มิวนิค โพสต์ให้มีความเห็นว่า เดินทางมาดูเกมที่ แอนฟิลด์ จนถึงก่อให้เกิดกระแสข่าวสาร หงส์แดง ส่อยืมดาวเตะทีม เสือใต้ มาร่วมทัพในเดือนนี้

ลิเวอร์พูลมีผลงานไม่สู้ดีในซีซั่น 2022/23 รวมทั้งนำมาซึ่งการทำให้ที่ปรึกษา เจอร์เก้น คล็อปป์ เปิดอกโดยตลอดว่า กระหายเสริมทีมเหตุเพราะ มีนักเตะล้มเจ็บหลายราย แต่ขณะเดียวกันนายใหญ่ด๊อยทช์ เชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าไม่คงจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ครอบครองสโมสร

ดังนี้ ในช่วงซัมเมอร์ หงส์แดง คว้านักเตะใหม่มาร่วมชายคา

สามรายทั้ง ดาร์วิน นูนเญซ 65 ล้านปอนด์ , คัลวิน แรมซีย์ 4 ล้านปอนด์ และก็ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ 5 ล้านปอนด์ ก่อนดึง โคกี้ กัคโป มาเพิ่มอีกรายในเดือนม.ค. 37 ล้านปอนด์

กระนั้นก็ดี คล็อปป์ แสดงท่าต้องการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่อีกเนื่องจากผลงานของทีมยังไม่มี วี่แววว่าจะกระเตื้องขึ้น อย่างเป็นรูปธรรม กระทั่งล่าสุด มีประเด็นให้กองเชียร์ เดอะ ค็อป ได้เกาะติดสถานการณ์ เข้าให้แล้วเพราะว่า ราฟาเอล่า ปิเมนต้า เอเยนต์สาวของ กราเฟนแบร์ก โพสต์รูปลงไอจีขณะเข้าดูเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาซึ่ง ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเสมอกับ เชลซี 0-0

เอเยนต์ กราเฟนแบร์ก

ต่อกรณีดังกล่าว ส่งผลให้มีการทึกทัก กันว่าคุณอาจบินมาที่อังกฤษเพื่อสนทนาย้ายทีมให้ กราเฟนแบร์ก ก็เป็นได้เพราะอดีตกองกลางทีม อาแจ็กซ์ ซึ่งย้ายมาค้าแข้งกับ บาเยิร์น เมื่อช่วงซัมเมอร์ได้ลงเล่นให้กับ เสือใต้ ในซีซั่นนี้เฉลี่ยเพียงแค่นัดละ 30 นาทีเท่านั้น

ขณะเดียวกัน คาดว่าแชมป์ บุนเดสลีกา ยินดีปล่อยดาวเตะวัย 20 ปีให้ย้ายสโมสรแบบยืมตัวด้วย ก็เลยเป็นการจุดประเด็น ข่าวโคมลอยเสริมทัพอีกหนของ เครื่องจักรสีแดง ทีมอันดับเก้าของตาราง พรีเมียร์ลีก ซึ่งถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับสี่ทำแต้มหนีไปไกล 10 แต้มแล้วต่อการพยายามคว้าโควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นนี้ของถิ่น แอนฟิลด์

กระนั้นก็ดีแล้ว นอกเหนือจาก กราเฟนแบร์ก แล้ว ปิเมนต้า เป็นเอเยนต์ของ ดันเซล ดุมฟรีส์ กองหลัง อินเตอร์ มิลาน ที่โดนลือกับ เชลซี ด้วย

ด้าน ฟลอเรียน เพล็ตเท่นแบร์ก ผู้รายงานข่าวของ สกาย เยอรมัน ได้ทวีตถึงกรณีของ กราเฟนแบร์ก กับลิเวอร์พูล ว่าไม่เป็นความจริง

‘กราเฟนแบร์ก’ ขอแย่งตัวจริง ‘เสือใต้’ ไม่มา ลิเวอร์พูล ม.ค.

สกาย เยอรมัน ไม่ปล่อยให้เหล่า เดอะ ค็อป ได้ใจไปไกล เมื่อปฏิเสธข่าว ไรอัน กราเฟนแบร์ก เตรียมย้ายซบ ลิเวอร์พูลแบบยืมตัวเดือนมกราคม หลังจากเอเย่นต์มาดูเกมที่สนาม ยันนักฟุตบอลยังต้องการลงเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค
ฟลอเรียน เพล็ตเท่นแบร์ก ผู้สื่อข่าวดังของ สกาย เยอรมัน ยืนยันว่า บาเยิร์น มิวนิค ทีมในศึกบุนเดสลีกา ไม่มีแผนการจะปล่อยตัว ไรอัน กราเฟนแบร์ก มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ไปให้กับ ลิเวอร์พูลสโมสรจากเกาะอังกฤษ ยืมตัวไปใช้งานในช่วงเดือนมกราคมนี้ ตามกระแสข่าวลือที่มีออกมา ในขณะที่ตัวนักฟุตบอลเองก็ตัดสินใจอยู่แย่งชิงตำแหน่งตัวจริงในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

กราเฟนแบร์ก

ดาวเตะวัย 20 ปี ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาร่วมกองทัพ เสือใต้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียงแต่สองนัดเท่านั้น สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าตัวเป็นอย่างมาก จนล่าสุด มีกล่าวว่า ราฟาเอล่า ปิเมนต้า เอเยนต์สาวของ กองกลางดาวรุ่ง ได้โพสต์รูปลงไอจี ขณะเข้ามาดูเกมที่ เร้ด แมชชีน เปิดบ้านเสมอกับ 0-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา

นำมาซึ่งการทำให้เหล่าสาวก เดอะ ค็อป คาดว่า อาจจะบินมาพูดจากับ หงส์แดง เรื่องการย้ายมาเล่นแบบยืมตัว ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ ประกอบกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ก็ต้องการหาผู้เล่นในแดนกลางเข้ามาเสริมทัพเพื่อกลับวิกฤตฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ให้กลับมาดีเหมือนเดิม แต่ติดปัญหาเรื่องของงบประมาณ การยืมตัวจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม เหยี่ยวข่าวในลีกเมืองเบียร์ ออกมาดับกระแสข่าวดังกล่าวแล้ว โดยกล่าวว่า ” กราเฟนแบร์ก ตัดสินใจแล้ว และไม่ต้องสงสัยเลย เขาต้องการอยู่ที่ บาเยิร์น มิวนิค ถัดไป ไม่มีการย้ายทีมในเดือนมกราคม สโมสรเองยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาอยู่ ข่าวการให้ ลิเวอร์พูล ยืมตัวหรือย้ายไปสโมสรอื่นไม่เป็นความจริง ”

ด้าน ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการกีฬาของทีมแห่งแคว้น บาวาเรีย กล่าวว่า ทางสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ยังคงสนับสนุนให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมชุดใหญ่ถัดไป แม้จะเริ่มต้นในครึ่งซีซั่นแรกด้วยการลงสนามได้ไม่มากนัก แต่เขาหวังว่านักเตะจะได้มีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

แมนยู

ไม่ต้องคิดนาน!สื่อยักษ์ยันแล้ว แมนยู เซ็น รอยส์ มั้ย?

เดลี่ เมล สื่อใหญ่ของอังกฤษระบุ แมนยู ใช้เวลาคิดได้ไม่ยากว่าจะเซ็นสัญญากับ มาร์โก รอยส์ สตาร์ทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือไม่หลังเจ้าตัวจ่อย้ายทีมแบบๆฟรีๆในช่วงซัมเมอร์
รอยส์ วัย 33 ปีกำลังจะหมดสัญญากับ เสือเหลือง หลังจบซีซั่นนี้โดยต้นสังกัดของเขาแสดงท่าไม่คิดต่อสัญญาใหม่ซึ่งทำให้เอเยนต์ของนักเตะเริ่มมองหาสโมสรใหม่ให้กับกองกลางจอมเก๋าแล้ว

นอกเหนือจากที่จะตกเป็นข่าวลือกับ อัล นาสเซอร์ สโมสรของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้ว รอยส์ ก็ถูกโยงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกันด้วยเหตุว่าเอเยนต์ของเขาเดินทางมาดูเกมที่ ผีแดง เปิดบ้านคว่ำ แมนฯ ซิตี้ 2-1 เมื่อไม่นานมานี้

รวมทั้งได้คุยกับ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวฮอลแลนด์ด้วยกระทั่งทำให้เชื่อกันว่าทีมลูกหนังแห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด สนใจดึงเขามาร่วมทีมในเดือนม.ค.นี้เลยเพื่อเพิ่มโอกาสคว้าความสำเร็จให้กับสโมสรหลังจากยืมตัว เวาท์ เว็กฮอร์สต์ กองหน้าทีมชาติ ฮอลแลนด์ มาร่วมชายคาก่อนแล้ว

ต่อกรณีของ รอยส์ ล่าสุดเมื่อ 22 ม.ค. เดลี่ เมล เปิดเผยว่า เทน ฮาก ไม่มีความคิดดึงตัว รอยส์ มาร่วมทีมเพราะเหตุว่าตัวนักฟุตบอลมีค่าแรงสูงถึงสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (ราว 8.2 ล้านบาท) และที่สำคัญที่สุด เขามีปัญหาป่วยบ่อยมากในระยะหลังซึ่งทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ต้องการก้าวเดินผิดพลาดซ้ำอีกเหมือนที่เคยเซ็นสัญญากับ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ช่วงซัมเมอร์ปี 2007 ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก่อนที่ดาวเตะอิงลิชจะย้ายไปร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ ในอีกสามปีต่อมา

นอกเหนือจาก ฮาร์กรีฟส์ แล้ว บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ ก็เป็นอีกกรณีที่ ผีแดง ยอมรับว่าตัดสินใจพลาดคว้าเขามาร่วมกองทัพในปี 2015 สมัยที่ หลุยส์ ฟาน กัล กุมบังเหียน และก็ปรากฏว่าดาวเตะชาวเมืองไส้กรอกล้มเจ็บถี่ยิบกระทั่งถูก โชเซ่ มูรินโญ่ โละทิ้งในเวลา 18 เดือน

มาร์โก รอยส์

ไม่ใช่เล่นๆแล้ว “รอยส์” ส่อย้ายซบ แมนยู เผย 3 สัญญาณอาจโยกลุยพรีเมียร์ลีก

“ไม่ใช่แค่ลือ?” เปิดเผย 3 สัญญาณ มาร์โก รอยส์ อาจย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา มาค้าแข้งกับ แมนยูฯ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันที่ 20 มกราคม 2566 เดลี เมล สื่อดังเมืองผู้ดีแถลงการณ์ว่า มาร์โก รอยส์ แนวรุกทีมชาติเยอรมนี วัย 33 ปี อาจย้ายมาร่วมงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในซีซั่นหน้า หลังหมดสัญญากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรชั้นนำในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน หลังจบฤดูกาลนี้

แหล่งข่าวสารกล่าวว่า เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนยูฯ ได้มีการนัดพบแบบลับๆกับ เดียร์ค เฮเบิล รวมทั้ง ดาร์เรน ฟรีแมน 2 เอเย่นต์ส่วนตัวของ มาร์โก รอยส์ ซึ่งทั้งคู่ก็โพสต์เครือข่ายสังคมว่าได้เดินทางมาชมเกมพรีเมียร์ลีก

นัดล่าสุดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด สนามเหย้าของ “ปิศาจแดง” ซึ่งเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มกราคมที่ผ่านมาด้วย

แมนยู อัล นาสเซอร์

นอกจากนั้น รอยส์ ก็ยืนยันว่าเขาพร้อมพิจารณาทางเลือกอื่นๆ

หลังหมดสัญญากับ ดอร์ทมุนด์ ซึ่งสามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเชื่อมโยงกับ อัล นาสเซอร์ สโมสรเงินหนาแห่งซาอุดีอาระเบียที่พึ่งจะคว้าตัว คริสเตียโน โรนัลโด ไปร่วมงาน หลังจากยอดดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสตกลงยกเลิกสัญญากับ แมนยูฯ

ขณะที่ เทน ฮาก ก็กำลังหาทางเสริมกองทัพภายใต้นโยบาย รัดเข็มขัดหลังจาก แมนยูฯ ประกาศขายสโมสร ซึ่งการคว้าตัว รอยส์ ไม่ต้องจ่ายค่าตัวแต่อย่างใด เหลือแค่การสนทนาเรื่องค่าเหนื่อยที่เจ้าตัวเคยรับกับ ดอร์ทมุนด์ สัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (8.2 ล้านบาท) ซึ่งยังไม่ถือว่าเกินเพดานสูงสุด ตามกฎใหม่ที่สโมสรตั้งเอาไว้ 300,000 ปอนด์ (12.3 ล้านบาท)

หงส์แดง ฟีร์มิโน่

หงส์แดง เตรียมยื่นสัญญาฉบับใหม่เพื่อรั้ง “ฟีร์มิโน่”

สื่อรายงาน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ให้ความสำคัญกับการต่อสัญญาฉบับใหม่ของ “โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่”

นับตั้งแต่ย้าย จากฮอฟเฟ่นไฮม์ ทีมในศึกบุนเดสลีกาเยอรมัน มาร่วมทัพ หงส์แดง เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2015 ฟีร์มิโน่ ก็เป็นข้อสำคัญที่พาลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จ ภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ มาโดยตลอดเวลา ที่อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ แข้งบราซิลเลียนรายนี้คว้าแชมป์มาแล้ว 7 รายการ รวมแชมป์พรีเมียร์ลีกรวมทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอย่างละถ้วย พร้อมสถิติการลงเล่น 348 นัดทุกรายการ ยิง 107 ประตู แอสซิสต์ 78 ครั้ง

แต่ฟอร์มของลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาลนี้ค่อนข้างย่ำแย่ เนื่องด้วยต้องดิ้นรนไม่ให้ตกไปอยู่โซนกลางตาราง ทั้งยังฟอร์มของ ฟีร์มิโน่ก็ไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก

หัวหอกวัย 31 ปีรายนี้ลงสนามไป 21 นัด ยิงไป 9 ประตู ทำไปอีก 4 แอสซิสต์ และก็หลังจากพักเบรก ฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 ก็ไม่ได้ลงเล่นอีกเลยเพราะว่าอาการบาดเจ็บ

ฟลอเรียน เพลทเทนเบิร์ก ผู้สื่อข่าวของสกายสปอร์ต เยอรมนี กล่าวว่า หากแม้ฟีร์มิโน่ใกล้จะหมดสัญญา กับทางลิเวอร์พูล แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ในอนาคตของคล็อปป์ และก็ยังต้องการเล่นในระดับสูงสุด ต่อไปแม้ว่าจะมีข่าวกับทีมจากซาอุฯ ก็ตาม โดยคาดว่าจะได้รับการขยายสัญญาออกไปถึงปี 2025

ฟีร์มิโน่ ลิเวอร์พูล

ถึงแม้ลิเวอร์พูล ต้องการจะเก็บฟีร์มิโน่ไว้ แต่ทางสโมสรก็ยังไม่ต่อสัญญา กับแข้งรายอื่น ๆ อย่างนาบี เกอิต้า อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน รวมทั้งเจมส์ มิลเนอร์ รองกัปตันทีม ที่สัญญากำลัง จะหมดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ทำให้การต่อสัญญา ของฟีร์มิโน่ดูไม่แน่นอน แถมคล็อปป์ยังบอกหลังเกมเอฟเอ คัพ ในเกมเชือดชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 ว่าจะไม่ซื้อนักฟุตบอลเพิ่มในตลาดหน้าหนาวนี้แล้ว

ชัยชนะเหนือทีมหมาป่า ทำให้ลิเวอร์พูลต้อง กลับมาฟาดแข้งกับ ไบรท์ตัน อีกครั้งในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ในวันอาทิตย์ที่ 29 นี้ หลังแพ้ไบรท์ตันหมดรูป 3-0 แต่ หงส์แดง จะโฟกัสเกมดวล “สิงห์บลูส์” เชลซีในวันเสาร์นี้ (21 ม.ค.) มากกว่า เพราะว่าเป็นการเอาตัวรอด จากโซนกลางตารางพรีเมียร์ลีก ซึ่งทั้งสองทีมมี 28 คะแนนเท่ากัน แต่ลิเวอร์พูลแข่งน้อยกว่า 1 นัด

คล็อปป์ลั่นการมา ของคักโป ไม่กระทบสัญญาใหม่ฟีร์มิโน

กุนซือหงส์แดง ชี้ว่าการมาของแนวรุก ชาวฮอลล์แลนด์ไม่กระทบสัญญาใหม่กองหน้าชาวบราซิเลียน

เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ยืนยันว่าการย้ายมา ร่วมทีมของ โกดี้ คักโป จะไม่กระทบการพูดจาสัญญาใหม่กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน

กองทัพหงส์แดง ทำเซอร์ไพรส์ ประกาศคว้าแนวรุกทีมชาติ เนเธอร์แลนด์จาก พีเอสวี มาร่วมทีมด้วยค่าตัวเบ็ดเสร็จ 44 ล้านปอนด์ พร้อมสวมหมายเลข 18 ลงสนาม

การมาของ คักโป ทำให้มีข่าวสารว่า ฟีร์มิโน ที่จะหมดสัญญากับทีมหลัง จบฤดูกาลนี้ พิจารณาไม่ต่อสัญญาใหม่ แต่ว่า คล็อปป์ ยังคงยืนยันว่าดาวเตะวัย 31 ปียังเป็นหัวใจหลักในแผนการทำทีมของเขา

“ไม่ ไม่เลย ไม่ใช่จากผม แน่นอนว่าไม่มีทาง เราได้คุยกับบ็อบบี้ และก็ผมบอกได้เลยว่าจากมุมมองของผม ผมต้องการเขา แน่นอน ต้องการที่จะให้เขาอยู่ต่อ เรื่องนี้ไม่ได้กระทบเลย หากคุณหมายถึงผลกระทบที่ทำให้ บ็อบบี้ อาจต้องย้ายทีม คุณต้องไปถามบ็อบบี้เรื่องนั้น แต่จากผมแล้ว ไม่เลย”

ลิเวอร์พูลต่อสัญญาโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

หงส์แดง จ่อขายหุ้นมากกว่าเทคโอเวอร์ทีม

เจ้าของทีมลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะขายหุ้น บางส่วนของสโมสรออกไป มากกว่าการปล่อยให้มีการเทคโอเวอร์

ดิ แอธเลติก สื่อน่าเชื่อถือได้ของอังกฤษ รายงานว่า เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) ผู้ครอบครองทีมลิเวอร์พูล มีทิศทางขายหุ้น ส่วนน้อยของสโมสรออกไป มากกว่าการปล่อยให้เข้ามามีการเทคโอเวอร์ทั้งหมด

ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เอฟเอสจี พยายามมองหากลุ่มทุนใหม่ พร้อมเปิดรับข้อเสนอต่าง ๆ โดยมี โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลี่ย์ สถาบันการเงิน จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้แทนดำเนินการ

แต่จนถึงเวลานี้ กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาซื้อทีมตั้งแต่ปี 2010 ด้วยราคา 300 ล้านปอนด์ ยังไม่ได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจ ทำให้โอกาสที่ทีมจะขายทีมออกไปทั้งหมด นั้นเป็นไปได้น้อยกว่าการที่จะปล่อยหุ้น บางส่วนออกไป แต่แต่ว่าจนกระทั่งตอนนี้ก็จะยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรือเกิดขึ้น

ปัจจุบันจากการที่ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จมากกว่า ทำให้ทีมมีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านปอนด์

โชเซ่ มูรินโญ่

“มูรินโญ่” ไม่พอใจบอร์ด ส่อลา “โรม่า”

สื่ออิตาลี ตีข่าว โชเซ่ มูรินโญ่ อาจลาโรม่า หลังจบฤดูกาลนี้ เนื่องจากไม่พอใจบอร์ดบริหาร

สกาย อิตาเลีย แถลงการณ์ว่า มูรินโญ่ไม่พอใจการทำงานของบอร์ดบริหารโรม่า ที่ไม่มีความทะเยอทะยานอย่างที่ควรจะเป็น แล้วก็มีหลายเรื่องที่สโมสรไม่ทำตามสัญญาเหมือนตอนที่เจรจาดึง มูรินโญ่มาทำงาน ทำให้อารมณ์ของมูรินโญ่ เปลี่้ยนจากความกระหาย มาเป็นความกังวล จนกลายเป็นไม่มีความสุขในการทำงาน โดยยิ่งไปกว่านั้นอย่างยิ่งกับการเสริมทัพ ที่มูรินโญ่ มีความรู้สึกว่า ทีมเน้นไปที่การซื้อดาวรุ่งมากกว่าการหานักฟุตบอลที่พิสูจน์ผลงานแล้ว

มูรินโญ่ ยังยอมรับว่า โรม่าจะไม่มีการเสริมกองทัพในตลาดหน้าหนาวนี้ โดยอ้างชื่อ ติอาโก้ ปินโต้ ผู้อำนวยการสโมสร ที่กล่าวในสิ่งที่ปกติแล้วคนเป็นโค้ชไม่อยากจะได้ยินกันว่าไม่มีงบเสริมกองทัพให้ มูรินโญ่ยังเสริมเหตุว่า ที่ผ่านมา ตนเคยทำงานกับสโมสรที่มีเงินทุนให้ใช้แบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งทุกวันนี้มันมีสโมสรที่มีสถานะแบบนั้นมากขึ้นเรื่อยๆแต่โรม่าไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่มูรินโญ่ ก็ทิ้งท้ายว่า ไม่ได้มีปัญหากับบอร์ดบริหาร โดยพูดว่า คงจะตำหนิใครไม่ได้ แค่เพราะว่าคนนั้นบอกแบบตรงไปตรงมาได้หรอก

มูรินโญ่ ยังพูดเรื่องการคุมทีมชาติเหตุว่า เคยได้รับช้อเสนอให้ไปคุมทีมชาติโปรตุเกส แทนที่แฟร์นานโด ซานโต๊ส โดยประธานสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ถึงกับยกให้มูรินโญ่ เป็นเพียงแต่ตัวเลือกเดียว ไม่มีช้อยส์กุนซือคนอื่น ซึ่งมูรินโญ่ ก็เปิดเผยว่า

ตัวเองรู้สึกภูมิใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น แต่ก็ได้ตอบปฏิเสธ รวมทั้งตัดสินใจที่จะอยู่คุมทีมโรม่าถัดไป อย่างไรก็ตาม ถ้ามูรินโญ่ ล่ำลาโรม่า หลังจบฤดูกาลนี้ ก็อาจจะถูกทาบทามให้ไปคุมทีมชาติบราซิล ที่ยังคงมองหากุนซือมาคุมแทนที่ ติเต้ อยู่

โชเซ่ มูรินโญ่ อาจลาโรม่า

มูรินโญ่ยก1ลูกทีมคือความต่าง+เปิดเผยชัดคุมฝอยทองหรือไม่หลังชนะเจนัว

โชเซ่ มูรินโญ่ผู้จัดการทีมโรม่า ยกย่องลูกทีมของเขารายนึงว่าคือความแตกต่างหลังเอาชนะเจนัวในศึกโคปปา อิตาเลีย รวมทั้งยังพูดถึงโอกาสในการไปรับงานคุมทีมชาติโปรตุเกส
โชเซ่ มูรินโญ่ประทับใจผลงานของเปาโล ดีบาล่า ในเกมโคปปา อิตาเลีย ฤดูกาล 2022-23 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่โรม่าเอาชนะเจนัว 1-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา (พฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2566) และก็ตัดความเป็นไปได้ที่จะเป็นโค้ชทีมชาติโปรตุเกสคนต่อไป โดยเกมนี้ทัพหมาป่าเหลืองแดงเอาชนะไปได้ 1-0 ได้ประตูชัยในนาทีที่ 64
จากจังหวะที่ จานลูกา มันชินี่ จ่ายบอลให้ดีบาล่า พาบอลฝ่าเข้าไปซัดตุงตาข่าย ทั้งนี้ จากความมีชัยดังกล่าวทำให้ โรมา ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปรอเจอกับผู้ชนะระหว่าง นาโปลี กับ เครโมเนเซ ต่อไป

หลังเกม มูรินโญ่ให้สัมภาษณ์กับ Sportmediaset สำหรับความมีชัย ของโรม่าและเสียงโห่ที่พุ่งเป้าไปที่นิโคโล่ ซานิโอโล่ “ผมไม่ใช่เด็กอีกต่อไป ผมจะอายุ 60 เร็ว ๆ นี้ แต่ผมทราบดีว่าเมื่อคุณทุ่มเททุกอย่าง คุณไม่ต้องต้องให้มากกว่านี้” “เมื่อผู้เล่นคนนึงให้ทุกอย่าง

เขาจะได้ความรักจากผมอยู่ตลอด ผมเสียใจที่ได้ยินเสียงโห่ใส่ซานิโอโล่ ผมขอผู้คนอย่างโห่ผู้เล่นของผม” มูรินโญ่ยังแสดงความนึกเห็นเกี่ยวกับอาการของ โลเรนโซ่ เปลเลกรีนี ที่โดนเปลี่ยนออกในช่วงพักครึ่ง และก็ผลงานของนักฟุตบอลของเขาในเกมนี้ “วันพรุ่งพวกเราจะได้มองเห็น แต่มีปัญหาบางอย่าง ผมอยากทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ” “คืนนี้ มีการทำงานเป็นทีมและควบคุมเกมโดยรวม กองหลัง 3 คนทำให้พวกเราปลอดภัยมาก อย่างไรก็ตาม ดีบาล่า นั้นดีเยี่ยมที่สุดมากๆเขามีกลิ่นอายที่แตกต่างออกไป”

โชเซ่ มูรินโญ่ โรม่า

มูรินโญ่ กล่าวถึงการแข่งขันในงานแถลงข่าวว่า

“ทีมพยายามอย่างเต็มที่เสมอ เมื่อคุณเล่น 40-50 เกมในหนึ่งฤดูกาล ดูเหมือนว่าพวกเราไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ทีมแล้วก็ผู้เล่นจะแตะต้องไม่ได้จากมุมมองนี้ เปาโลเป็นผู้เล่นที่ทำให้ทีมและก็โค้ชดียิ่งขึ้น มีโค้ชที่มีนักเตะแบบเขา 4-5 คน บางคนมี 11 คน บางคนมี 20 คน” “พวกเราไม่ได้มี 7 หรือ 8 แต่การมีดีบาล่า พวกเราก็มีดนตรีที่แตกต่างออกไป ทีมกำลังสร้างสิ่งต่าง ๆ มากมาย อย่าลืมว่า (อัลแบร์โต้) จิลาร์ดิโน่ (ผู้จัดการทีมเจนัว) จัดทีมได้ดี พวกเขาสามารถขึ้นเกมจากแผงหลังได้ รวมทั้งผมชอบมันมาก ผมต้องยกเครดิตให้กับทีมของเขา”

โค้ชชาวโปรตุเกส ยังแสดงความนึกเห็นเกี่ยวกับสภาพจิตใจของทีมในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลรวมไปถึงการเป็นโค้ชทีมชาติ “ผมมีความสุขแล้วก็ทุ่มเทอย่างดีที่สุดเสมอ นั่นคือสิ่งที่สำคัญ ผมมักจะทำให้ดีที่สุดสำหรับสิ่งที่ผมทำ ถ้าผมไม่ได้พูดเป็นเวลาสองเดือนมันก็เป็นเพราะว่าผมถูกพักงาน รวมทั้งผมไม่เคยบอกเมื่อผมโดนแบบนั้น” “วันนี้ผมสามารถบอกคุยกับพวกคุณรวมทั้งกล่าวอะไรที่คุณอาจไม่สนใจมากนัก แต่ผมอยากจะขอบคุณประธานสหพันธ์ ฟุตบอลโปรตุเกส สิ่งที่เขากล่าวทำให้ผมภูมิใจมาก” “การบอกว่าผมเป็นตัวเลือกเดียวของเขาและเขาจะทำทุกอย่างเพื่อพาผมกลับบ้านนั้นทำให้ผมมีความสุขมาก แต่ผมยังไม่ไปครับ ผมจะอยู่ที่นี่รวมทั้งจะทุ่มเทอย่างดีที่สุด”

ยิ่งไปกว่านี้เขายังแสดงความความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลงานของซานิโอโล่ในสนามแล้วก็ปฏิกิริยาของหมู่คน “ผมเสียใจที่ได้ยินเสียงโห่ในขณะที่มีการเปลี่ยนตัวสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมภูมิใจคือตัวเลขที่โอลิมปิโก้ (สนามเหย้า) ซึ่งขายหมดเสมอ ผมยินดีมากแม้ว่าจะไม่ใช่งานของผมก็ตาม” “ความเห็นอกเห็น ใจถูกผลิตขึ้นมาเป็นเวลานาน ในฐานะกลุ่มพวกเราทุ่มเทอย่างเต็มที่เสมอ

แล้วก็ผมเสียใจที่ได้ยินเสียงโห่ใส่ซานิโอโล่ เขาเป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่ทุ่มเททุกอย่าง” “ผมเรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็กว่าถ้าคุณทุ่มเททุกอย่าง คุณจะให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ซานิโอโล่ ให้ทุกอย่างที่เขามี ประวัติศาสตร์ของผมกับโรม่าอาจจะน้อยแต่ผู้คนฟังผม” “ผมกล่าวว่าพวกเขาสามารถโห่ทีม, โค้ช, ผลการแข่งขัน แต่ไม่ใช่ผู้เล่นรายคน ผมขออภัยสำหรับซานิโอโล่ ผมขออภัยที่สโมสรของผมไม่มีบุคลิก ที่ตรงไปตรงมา แทนที่จะโทษตรงนี้ ก็ไปโทษโน่นโทษนี่”

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ต้องฉลาดเหมือนลิเวอร์พูล! คันโตน่า ให้เหตุผลที่แมนยูชวดแข้งระดับโลก

เอริก คันโตน่า ตำนานกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้เหตุผลที่กองทัพ “ปีศาจแดง” ไม่สามารถดึงนักเตะระดับนานาชาติมาร่วมทีมเหตุเพราะพวกเขา ไม่สามารถการันตี ความสำเร็จ พร้อมแนะให้ดู ลิเวอร์พูล ที่ปั้นผู้เล่นธรรมดา ๆ ให้ กลายเป็นแข้งชั้นเยี่ยม

ช่วงที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การกุม บังเหียนของกุนซือเอริค เทน ฮาก มีการเสริมกองทัพพอสมควรในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่นักเตะส่วนมากยังไม่ค่อย ได้รับการยกย่อง ว่าอยู่ในแถวหน้า ของวงการลูกหนัง

ขณะที่ในช่วงตลาด พ่อค้าแข้งรอบ 2 เดือนมกราคม เทน ฮาก พยายามจะดึงนักฟุตบอลใหม่ มาเสริมแกร่งเพื่อ ทำให้ทีมมีขุมกำลัง ในเชิงลึกมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถคว้า ผู้เล่นที่ต้องการได้ โดยล่าสุดก็มีเพียง เว้าท์ เวกฮอร์สต์ ดาวยิงชาวฮอลันดา ที่กำลังจะย้ายมา เล่นแบบยืมตัว ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เท่านั้น

คันโตน่า ยอมรับว่าตนไม่รู้จัก เวกฮอร์สต์ หรือเรื่องที่แข้ง ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รายนี้จะย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูฯ “ในช่วงที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีม ถ้าคุณต้องการได้ นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก เขาจะรีบมาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะว่าพวกเขาสามารถ คว้าแชมป์ในอังกฤษ ได้อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งในยุโรปด้วย”

ปีศาจแดง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดในโลก

และพวกเขามีเงิน ที่จะซื้อนักฟุตบอลแบบไหนก็ได้ ตอนนี้มัน แตกต่างออกไป ด้วยเหตุว่านักฟุตบอลที่เก่ง ๆ ต้องการไปเล่น กับทีมที่สามารถคว้าแชมป์ ได้ตลอด

“ยูไนเต็ด ไม่ได้อยู่ในสถานะ ที่จะสามารถเลือกนักเตะที่เก่ง ๆ ได้ เพราะว่านักฟุตบอลเก่ง ๆ ไม่ต้องการย้ายมาเล่นกับ ยูไนเต็ด โดยเหตุนั้น คุณต้องฉลาดหลักแหลม ฉลาดหลักแหลมเสมือนลิเวอร์พูล พวกเขาดึงตัว (ซาดิโอ) มาเน่ กับ (โมฮาเหม็ด) ซาลาห์ มาร่วมทีม ทั้งสองคนไม่ใช่ นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก”

“แต่การที่ได้อยู่กับทีมชั้นยอดเยี่ยม แล้วก็บรรยากาศ ที่ดียอด เมื่อนำมารวมกัน ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ ได้มากมาย รวมทั้งจากนั้น มาเน่ กับ ซาลาห์ การกลายเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก นั่นคือตัวอย่างที่บรรเจิดสำหรับ ยูไนเต็ด” คันโตน่า เจาะจง

“แมนยูฯ” มาแรง ผงาดเต็งแชมป์ลีกคัพ แถมมีลุ้น ชูถ้วยอีก 3 รายการใหญ่

วันที่ 13 ม.ค. 66 ความเคลื่อนไหวการ แข่งขันฟุตบอล ลีก คัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 ที่ได้ 4 ทีมตบเท้าผ่าน เข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย ประกอบด้วยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นอตติงแฮม ฟอเรสต์, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด รวมทั้ง เซาแธมป์ตัน

ล่าสุด วิลเลียม ฮิลล์ บริษัทรับพนัน ถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษ ออกราคาทีมเต็งที่จะได้แชมป์ ลีก คัพ ประจำฤดูกาลนี้ ซึ่งปรากฏว่าเต็ง 1 ได้แก่ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 5/6 (แทง 6 จ่าย 5 ไม่รวมทุน) ส่วนเต็ง 2 ได้แก่ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 13/8 (แทง 8 จ่าย 13 ไม่รวมทุน)

นิวคาสเซิ่ล

อัตราต่อรองแชมป์ คาราบาว คัพ ฤดูกาล 2022-23

  1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5/6
  2. นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 13/8
  3. เซาแธมป์ตัน 9/1
  4. นอตติงแฮม ฟอเรสต์ 10/1

ผลประกบคู่ ลีก คัพ รอบรองชนะ

– นอตติงแฮม ฟอเรสต์ (พรีเมียร์ลีก) พบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

– เซาแธมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก) พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

ทั้งนี้ ในส่วนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดว่า กำลังทำผลงาน ได้อย่างเยี่ยมยอด จนกระทั่งทำให้ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ถึง 4 รายการ ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ยูโรปาลีก, เอฟเอ คัพ รวมทั้ง ลีกคัพ.

 แมนยู ควง นิวคาสเซิ่ล ทะลุรอบรองชนะ คาราบาว คัพ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิ่ล ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ

ฟุตบอล คาราบาว คัพ หรือ ลีก คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือน ชาร์ลตัน ทีมจาก ลีก วัน เกมนี้เป็นทีมจากพรีเมียร์ลีก ที่เล่นได้เหนือกว่าชนะไปแบบกินขาด 3-0 โดยได้ประตูจาก อันโตนี่ ในนาทีที่ 21 รวมทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ทำคนเดียว 2 ประตูในนาทีที่ 90 และก็ 90+4 และก็ถือเป็นการทำประตู 6 นัด ติดต่อกัน ของแนวรุก ทีมชาติอังกฤษ

อีกคู่ นิวคาสเซิ่ล ชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมเพื่อนร่วมลีกไป 2-0 โดยได้ประตูจาก แดน เบิร์น นาทีที่ 60 และก็ โชเอลินตอน นาทีที่ 72 ทำให้นิวคาสเซิ่ล ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศคาราบาว คัพเป็นหนแรกในรอบ 47 ปี

มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต

ม.เกษมบัณฑิต เดินหน้า เคบียูสปอร์ต โพลหวังสร้างประโยชน์ พัฒนากีฬาไทย

มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต เดินหน้าจัดการสำรวจ ความความเห็นประชาชนผ่าน KBU SPORT POLL เคบียูสปอร์ต โพล เพื่อหวังสร้างมุมดูที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากีฬาไทย
ดร.เสนีย์ สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและก็พัฒนา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่า ในโลกปัจจุบันทุกชาติตื่นตัวแล้วก็ให้ความสำคัญกับการกีฬา มากขึ้นอย่างตลอดประกอบกับกีฬาสามารถ สร้างสุขภาพแล้วก็สังคมที่ดีพร้อมกันไปด้วย นอกจากนั้นกีฬายังเป็นยุทธศาสตร์ สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนา เศรษฐกิจรวมทั้งสังคมภายใต้มูลค่าที่จับต้องได้

และจากความสำคัญดังกล่าวมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในฐานะสถาบันอุดมศึกษา ที่มีนโยบายในการส่งเสริมและก็สนับสนุนกิจการ กีฬามาอย่างต่อเนื่อง ก็เลยจัดโครงการบริการทางวิชาการแก่สังคมด้วยการ จัดการสำรวจความนึกเห็นประชาชนผ่าน KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ต โพล) ภายใต้การดำเนินการของศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์

ดร.เสนีย์ สุวรรณดี เผยอีกว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นหนึ่งในแผนงานที่ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

ตระหนักแล้วก็ให้ความสำคัญกับการสำหรับ การส่งเสริมการพัฒนา การกีฬาของประเทศ ภายใต้แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สำหรับการสำรวจความความเห็นดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมแล้วก็สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน หรือแฟนกีฬาในการที่จะสะท้อนมุมมอง แล้วก็เสนอแนะการพัฒนา และยกระดับการกีฬาของชาติตามประเด็นหรือหัวข้อที่ระบุ

ซึ่งจากการดำเนินการ ที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับจาก แฟนกีฬาเป็นอย่างมาก แล้วก็จัดว่าโพลดังกล่าวเป็นหนึ่ง ในการสร้างสีสันและก็ยกระดับการตื่นตัวให้กับสังคมกีฬาไทย ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง และก็เพื่อ ประโยชน์กับวงการกีฬาไทยมหาวิทยาลัยก็จะเดินหน้าผนึกพลังร่วมกับสังคมต่อไป

ดร.เสนีย์ กล่าวต่อไปว่า การสำรวจความคิดเห็นทางด้านการกีฬาผ่าน KBU SPORT POLL นั้นศูนย์นวัตกรรมการพัฒนา ทุนมนุษย์ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งจากการติดตามการสำรวจในแต่ละประเด็น ที่กำหนดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ ต่อวงการกีฬาในรูปภาพรวมทั้งสิ้น รวมทั้งที่น่าสนใจ คือได้รับความร่วมมือจากกลุ่ม ตัวอย่างหรือประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วม ในแต่ละมิติมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอซึ่งผลหรือข้อมูล ที่ได้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ ต่อการแต่งตั้งรวมทั้งพัฒนาวงการกีฬาไทย ได้ในระดับหนึ่ง

ดร.เสนีย์ สุวรรณดี

ด้าน ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการ ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการสำรวจความนึกเห็นของ KBU SPORT POLLนั้นเพื่อให้ใส่คล้องกับ ปรากฎการณ์ของสังคม กีฬาในแต่ละห้วงเวลาและก็เกิดเป็นประโยชน์ สูงสุดต่อสังคมโดยรวม คณะทำงานก็จะพิจารณาระบุประเด็นหรือหัวข้อที่ถือว่าตอบปัญหาและก็กำลัง เป็นที่น่าสนใจของสังคมทั้งยังในมิติที่เกี่ยวกับ การพัฒนาหรือ การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับกีฬาไทยในภาพรวม

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ เผยอีกว่า การดำเนินการสำรวจของ KBU SPORT POLLนั้นในระยะแรก คณะทำงานแล้วก็เครือข่ายจะลงภาคสนาม เพื่อเข้าเจอกลุ่มตัวอย่างโดยตรงแต่ด้วยตอนนี้สังคม เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มกำลังการดำเนินการก็ง่ายรวมทั้งสะดวก สามารถดำเนินการได้อีกทั้งภาคสนามและก็สื่อออนไลน์ผสมผสานกันไป อย่างไรก็ตามเพื่อผลการสำรวจใน แต่ละประเด็นไม่สูญเปล่าสามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาได้ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ก็จะสรุปสาระสำคัญต่าง ๆ เสนอไปยังหน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาเพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูลสำหรับดำเนินการในมิติที่เกี่ยวข้องมาอย่างตลอดด้วยเหมือนกัน

เหนือสิ่งอื่นใด KBU SPORT POLL สำเร็จตามเป้าประสงค์และก็เดินมาถึงวันนี้ได้ นั้นในนามของมหาวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณประชาชนหรือกลุ่มตัวอย่างที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ และอีกหนึ่งภาคส่วนที่นับได้ว่าเป็นพลังร่วมที่สำคัญยิ่งของความสำเร็จคือสื่อมวลชน ทุกแขนงที่มีส่วนร่วมกับการเผยแพร่ข่าวสารสู่สาธารณชนมาอย่างตลอดเช่นกัน ผอ.ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวทิ้งท้าย

“เคบียู สปอร์ตโพล” เปิดเผยผลจากการสำรวจเชื่อ”ฟุตบอลทีมชาติไทย”มีลุ้นแชมป์ “ซีเกมส์”

ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนา ทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ตโพล)

ตรวจสอบความคิดเห็นเกี่ยวกับทีม”ฟุตบอลทีมชาติไทย” เรื่อง “ช้างศึกไทยกับโอกาสและความหวัง สำหรับการคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2021″ โดยได้ดำเนินการสำรวจผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ค. โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจข่าวสารซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,369 คน (ชาย 803 คน คิดเป็นร้อยละ 58.66 หญิง 566 คน คิดเป็นปริมาณร้อยละ 41.34) ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่าง ๆ มีดังนี้

ความสนใจ ที่จะติดตามการแข่งขัน”ฟุตบอลทีมชาติไทย” กลุ่มตัวอย่างส่วนมาก ปริมาณร้อยละ 81.01 สนใจ, รองลงมาจำนวนร้อยละ15.91 ยังไม่ตัดสินใจ และก็ ร้อยละ 3.08 ไม่สนใจ , สื่อหรือช่องทางที่จะติดตามการแข่งขัน จำนวนมาก ร้อยละ 36.55 โซเชียลเน็ตเวิร์ค, รองลงมาจำนวนร้อยละ 34.19 วิทยุ-โทรทัศน์, ปริมาณร้อยละ 18.97 หนังสือพิมพ์, จำนวนร้อยละ 8.11 วิทยุกระจายเสียง แล้วก็อื่นๆร้อยละ 2.18คำถามถึงโอกาส

และความหวังกับการคว้าแชมป์ จำนวนมาก จำนวนร้อยละ 35.15 มีโอกาสค่อนข้างมาก, รองลงมาจำนวนร้อยละ 32.66 มีโอกาสมาก, จำนวนร้อยละ 17.06 ไม่แน่ใจ, จำนวนร้อยละ 8.11 มีโอกาสน้อย, ปริมาณร้อยละ 5.39 มีโอกาสค่อนข้างน้อย และปริมาณร้อยละ 1.63 ไม่มีโอกาสเลย , ทีมคู่แข่งขันที่น่ากลัว ร้อยละ 38.02 เวียดนาม, รองลงมา ปริมาณร้อยละ 25.59 อินโดนีเซีย ร้อยละ 15.88, มาเลเซีย ร้อยละ 12.10, สิงคโปร์ ร้อยละ 4.83, เมียนมา แล้วก็อื่นๆจำนวนร้อยละ 3.58

ด้านปัจจัยที่คาดว่า จะส่งผลต่อความสำเร็จ ส่วนใหญ่ปริมาณร้อยละ 31.21 สมรรถนะแล้วก็ความสามารถ ของนักกีฬา, รองลงมาจำนวนร้อยละ 26.87 ระยะเวลาในการตระเตรียมทีม, จำนวนร้อยละ 22.60 สมรรถนะของคนฝึก ร้อยละ 11.49 ผู้จัดการทีมและผู้ผลักดันและสนับสนุนเบื้องหลัง ร้อยละ 6.10 แรงเชียร์จากแฟนกีฬา แล้วก็อื่นๆจำนวนร้อยละ 1.73

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต

เปิดเปิดเผยว่าจากผลการสำรวจ จะมองเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างโดยมากต่างให้ความสนใจ ที่จะติดตามการแข่งขัน เพราะเหตุว่าฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์เป็น การแข่งขันแห่งศักดิ์ศรี ที่ทุกชาติต่างมุ่งหวังที่จะคว้าเหรียญทองทั้งสิ้น ประกอบกับการแข่งขันในครั้งที่แล้วทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์ ในครั้งนี้จึงทำให้แฟนกีฬาตื่นตัวที่จะติดตามเกมมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้”ฟุตบอลทีมชาติไทย” จะประสบกับปัญหาในการจัดเตรียมทีม และขาดผู้เล่น ร่วมทีมหลายรายก็ตาม แต่แฟนกีฬายังมั่นใจว่าทีม “ช้างศึก” มีโอกาสแล้วก็ความหวังค่อนข้างมาก กับการที่จะคว้าแชมป์มาครองได้ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่แฟนบอลคาดหวัง ต่างมุ่งไปที่การรบรถนะหรือฝีเท้าของผู้เล่น รวมทั้งถ้าพิจารณา ถึงทีมคู่แข่งจะเห็นได้ทีมเวียดนามในฐานะเจ้าบ้านแล้วก็แชมป์เก่า เป็นทีมที่น่ากลัว

“หากพิจารณาในภาพรวม สำหรับการเข้าร่วม การแข่งขันของทีมชาติไทย ในรายการนี้ถ้าเกิดพิจารณาถึงกิตติศัพท์ เกียรติแล้วก็ศักดิ์ศรีของประเทศแล้วมั่นใจว่าด้วยความมุ่งมั่นของผู้จัดการทีมคือ นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ภายใต้การผนึกพลังด้วยกันของทุกฝ่ายเชื่อว่าทีม”ฟุตบอลทีมชาติไทย” คงจะคว้าแชมป์รวมทั้งสร้างความสุขให้กับแฟนกีฬา” ผศ.ดร.รัฐพงศ์ เจาะจง

อาเซียนคัพ

ไทย เฮเปิดหัว อาเซียนคัพ ธีรศิลป์โขก เพิ่มสถิติอีก ทุบบรูไน ยึดจ่าฝูงกลุ่มเอ

“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กระแทกหนึ่งตุง เพิ่มสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาล รายการ อาเซียนคัพ เป็น 20 ประตู พาทีมชาติไทย ถล่ม บรูไน ขาด 5-0 แชมป์เก่าเก็บสามแต้มประเดิม พร้อมยึดจ่าฝูง กลุ่ม เอ ในศึก อาเซียน คัพ 2022

ฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565

บรูไน 0-5 ทีมชาติไทย

ธีรศิลป์ แดงดา

การแข่งขันฟุตบอล อาเซียนคัพ 2022

ประจำวันอังคารที่ 20 ธ.ค.65 ที่สนามชีราส สเตเดี้ยม กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เวลาไทย 19.30 น.) เป็นเกมนัดเปิดสนาม รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ คู่ระหว่าง ทีมชาติบรูไน ทีมอันดับ 190 ของโลก เจอกับ ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 111 ของโลก

รายชื่อ ผู้ตัดสิน : เฉิน ซิน-ฉวน (ไต้หวัน), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : เฉิน เซียว-เอิน (ไต้หวัน), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : เหงียน จ่อง ห่าว (เวียดนาม), ผู้ตัดสินที่ 4 : โง ดุย ลัน (เวียดนาม)

เกมนี้ มาโน่ โพลกิ้ง ผู้จัดการทีมกองทัพ “ช้างศึก” จัดชุดใหญ่เต็มอัตราศึก ลงสนาม ซึ่งเป็นชุดที่เพิ่งถล่มเอาชนะ เมียนมา 6-0 ในเกมเตรียมพร้อมที่ สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เริ่มเกมแค่นาทีเดียว ไทย แทบได้ ประตูนำ อดิศักดิ์ ไกรษร หลุดเข้าไปในเขตโทษ ฝั่งซ้ายก่อนจะพยายามยิงเล่นทาง แต่ไปติดแนวรับบรูไน ช่วยเคลียบอลสกัดผ่านเสาสองออกหลังไปหวุดหวิด

นาที.4 ยังเป็นโอกาสของไทย อย่างตลอด ธีราทร บุญมาทัน บรรจงเปิดด้วยซ้าย จากริมเส้นฝั่งขวา อดิศักดิ์ ไกรษร ได้โหม่งเน้น ๆ แต่บอลดันไปเข้ามือ ไฮมี่ ไนยาริง ที่ล้มตัวตะปบเอาไว้ได้

มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา

นาที.19 ไทย ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน ยกบอลข้ามแนวรับบรูไนให้กับ ธีรศิลป์ แดงดา ปาดเข้ากลางก่อนจะเป็น บดินทร์ ผาลา วิ่งมาแปบอลส่งเข้าสู่ก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที.34 บดินทร์ ผาลา เกือบจะเบิ้ล เม็ดสองของตัวเองในเกมนี้ หลังได้บอลบริเวณ กรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนโยกหลบกองหลังบรูไน และหักเข้าขวายิงเท้าข้างถนัด แต่บอลดันโค้งไม่พอ ไฮมี่ ไนยาริง พุ่งรับเอาไว้ได้

ช่วงท้าย ครึ่งแรก นาที.44 ไทย หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลโค้ง ๆ จากฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นกระแทกเน้น ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป แล้วก็เป็นลูกที่ 20 ของเขาตลอดการลงเล่นในรายการนี้อีกด้วย

เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที.61 ไทย เกือบได้เม็ด 3 เมื่อธีราทร บุญมาทัน พาบอลตะลุย เลี้ยงขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดบอลโค้ง ๆ เข้ามาในเขตโทษ ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นขวิดโหม่งคนเดียวเตียน ๆ แต่ดันโดนบางไปบอลถากเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที.64 “ช้างศึก” น่าได้ลูก 3 เมื่อ ธีราทร บุญมาทัน เปิดลูกเตะมุม ทางฝั่งขวาเข้ามาในเขตโทษ บอลเลยมาถึงแถวสองมาเข้าทาง พรรษา เหมวิบูลย์ ก้มโหม่งจ่อ ๆ แต่ดันไปตรงตัว ไฮมี่ ไนยาริง รับเอาไว้ได้

นาที.71 เอกนิษฐ์ ปัญญา เปิดบอลจากฝั่งขวา เข้าเขตโทษ แนวรับบรูไน เคลียสกัดไม่ดีบอลมาเข้าทางปืน ปรเมศย์ อาจวิไล พักบอลลงหนึ่งจังหวะ แล้วก็ซัดเต็มข้อ บอลดันเฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว

นาที.88 ไทย ได้ประตูหนีเป็น 3-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ยูรา ยูราโนส ก่อนที่ทีมชาติไทย จะมาได้ลูกจุดโทษ และเป็น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ตัวสำรองยิงเข้าไปไม่หมาดให้ทีมหนี 4-0 รวมทั้งใน นาที.90+3 พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี จะมาเบิ้ลเม็ดสองของตนในเกมนี้ ยิงเพิ่มเป็น 5-0 กระทั่งจบเกม บรูไน เปิดบ้านแพ้ ไทย 0-5

สำหรับโปรแกรมถัดไป บรูไน จะลงเตะนัดที่ 2 บุกเยี่ยม ฟิลิปปินส์ ในวันศุกร์ที่ 23 ธ.ค.65 ที่สนามริซาล เมโมเรียล สเตเดี้ยม เวลา 17.00 น. ส่วนทัพ “ช้างศึก” จะได้พัก 5 วันเต็ม ก่อนที่จะกลับ ไปเล่นในบ้านจัดการ ฟิลิปปินส์ ในวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.65 ที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม เวลา 19.30 น.

อาเซียนคัพ ไทย

รายชื่อ ผู้เล่นของทั้งสองทีม

  • ทีมชาติบรูไน 
  1. ไฮมี่ ไนยาริง (ผู้รักษาประตู)
  2. ไคริล ซูไฮมี
  3. อาลินูร์ จูฟรี
  4. ยูรา ยูโนส
  5. ฮาเคเม ซาอิด (อาดี้ ซาอิด แทน น.70)
  6. นูรอิควาน ออตมาน
  7. เฮนดรา ไอดริส (วาฟี้ อามีนูดดิน แทน น.63)
  8. ฮาซิค กาซีฟูล (อัซวาน ซาเลห์ แทน น.63)
  9. นาจิบ ทาริฟ
  10. ฮามิซาน ซูเลมาน (ฮานิฟ ฮาเมียร์ แทน น.23)
  11. ราซิมี รัมล์ลี (อาซีซี อาลี ราห์มาน แทน น.69)
  • ทีมชาติไทย 
  1. กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (ผู้รักษาประตู)
  2. พรรษา เหมวิบูลย์
  3. กฤษดา กาแมน
  4. ศุภนันท์ บุรีรัตน์
  5. ศศลักษณ์ ไหประโคน
  6. ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น (พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี แทน น.80)
  7. เอกนิษฐ์ ปัญญา (ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว แทน น.81)
  8. บดินทร์ ผาลา (เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ แทน น.72)
  9. อดิศักดิ์ ไกรษร (ปรเมศย์ อาจวิไล แทน น.46)
  10. ธีรศิลป์ แดงดา (สุมัญญา ปุริสาย แทน น.72)

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ธีราทร บุญมาทัน (ทีมชาติไทย)

บอลโลก

ปธ.เป้ หวุดหวิดลักขโมยซีน,เมสซี่ ยิ่งใหญ่สมการ รอ! 5 ประเด็น อาร์เจนฯ เชือดหวิว ประเทศฝรั่งเศส นัดชิง บอลโลก

ใครเขียนบทฉากจบ บอลโลก 2022 ก็ไม่อาจทราบได้ แต่บอกเลยว่าโรคจิตดีจริง ด้วยเหตุว่า อาร์เจนติน่า ส่อแววคว้า แชมป์โลก ได้แบบปลอกกล้วยเห็น ๆ หลังโชว์ความเหนือชั้นนำหน้า ประเทศฝรั่งเศส ไปก่อนถึง 2-0 ใน 45 นาทีแรกของการ ฟาดแข้งนัดชิงแชมป์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.

แต่จนแล้ว จนรอด เกมกลับต้องล่วงเข้าสู่ ช่วงต่อเวลาพิเศษจากการสำแดงเดชของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ก่อนที่ฟ้าจะประทานโทรฟี้ ใบสำคัญให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ เหมือนที่แฟนบอลส่วนมาก เอาใจช่วยให้ยอดกองหน้าสมหวังก่อนอำลา

ส่อแววคว้า แชมป์โลก

การรับใช้ชาติอย่างสมบูรณ์แบบโดยทีม ฟ้าขาว เฉือนเอาชนะ แชมป์เก่า ลงได้จากการดวลลูกโทษตัดสิน

1.ชิรูด์ ยังอยู่ น้ำหอมได้สองตัวหลักคัมแบ็ค

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมทีมชาติ ประเทศฝรั่งเศส สามารถจัด 11 ตัวแรกลงป้องกันโทรฟี่ได้ตามที่เขาต้องการเนื่องมาจาก ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กับ อาเดรียง สองขุนพลคู่ใจหายกลับมาลงบู๊เป็นตัวจริงได้

รวมแล้ว ทีมตราไก่ปรับโผสองราย และก็ทำให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กับ ยุสซุฟ โฟฟาน่า หล่นไปนั่งข้างสนามอย่างที่เคย

อย่างไรก็ดี โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่มีข่าวเจ็บเข่าขณะฝึกซ้อม และก็ส่อหลุดโผตัวจริงยังลงสนามให้ เลส์ เบลอส์ ได้ตามปกติ

2.ฟ้าขาว เดิมพันกับ ดิ มาเรีย

นับเป็นเรื่องช็อกเล็ก ๆ ที่ ลิโอเนล สกาโลนี่ ผู้จัดการทีมทีมชาติ อาร์เจนติน่า ส่ง อังเคล ดิ มาเรีย กลับมาเป็นตัวจริงอย่างไม่น่าไว้วางใจซึ่งเป็นเกมแรกที่ปีกร่างบางได้ออกสตาร์ตนับตั้งแต่พ้นรอบแบ่งกลุ่ม

อย่างไรก็ดี ทีมฟ้าขาวสลับให้ มาร์กอส อคุนญ่า นั่งข้างสนามโดยส่ง นิโกลัส ตายาฟิโก้ ลงบู๊เป็นตัวจริงอันเป็นการปรับทีมแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมยำใหญ่ โครเอเชีย 3-0 ในรอบตัดเชือก

สำหรับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปราการหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวซุบซิบว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงภายใต้ระบบแบ็คโฟร์ยังต้องนั่งเป็นตัวสำรอง

ฝรั่งเศษ

3.ร่วมสร้างสถิติก่อนฟาดฟัน

จากการเปิดเผยรายชื่อนักเตะของทั้งสองฝ่าย หมายความว่า อูโก้ โยริส นายทวารทีมชาติ ฝรั่งเศส กลายเป็นมือกาวคนแรกที่ลงเล่นในเกม ฟุตบอลโลก ถึงหลัก 20 นัด

ขณะเดียวกัน ลิโอเนล เมสซี่ ศูนย์หน้าทีมชาติ อาร์เจนติน่า ก็สร้างสถิติลงเล่นเกม บอลโลก มากที่สุดตลอดกาล 26 นัด แซงหน้า โลธาร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติ เยอรมัน ได้ผลสำเร็จสำเร็จ

26 ลิโอเนล เมสซี่

25 โลธาร์ มัทเธอุส

24 มิโรสลาฟ โคลเซ่

23 เปาโล มัลดินี่

22 คริสเตียโน่ โรนัลโด้

อาร์เจนติน่า
4.ครึ่งแรกที่แสนห่างชั้น

อาจเป็นนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก ที่ห่างชั้นกันมากที่สุด ก็ว่าได้เนื่องจากว่า อาร์เจนติน่า เช็คบิลไวนำไปก่อนถึง 2-0 ในครึ่งแรก และนำมาซึ่งการทำให้ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมักมีผลงานดีถ้าหากขึ้นนำคู่แข่งก่อนแล้วจึงอาศัยเกม รับที่เหนียวแน่นคว้าคำตอบเสมือนหลายเกมที่ผ่านมาจำต้องลำบากหนัก

และก็จากที่ได้มองเห็นเป็นทีม ฟ้าขาว ที่สนุกอยู่ข้างเดียวกับการทำเกมรุกใส่ทีม เลส์ เบลอส์ จากสถิติการครองบอล ที่เหนือกว่า 59:41% แถมได้ส่องยิง 6 ครั้งซึ่งเป็นการส่งบอลเข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ แชมป์เก่า ไม่ได้ง้าง ยิงเลยหากแม้แต่ครั้งเดียว

ด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว จึงต้องยกนิ้วให้กับ สกาโลนี่ ที่เก็บ ดิ มาเรีย เอาไว้เป็นทีเด็ดอยู่นาน ก่อนปล่อยให้ปีกทีม ยูเวนตุส ลงไปปล่อยของใน เกมสำคัญ อีกทั้งทำให้ทีมได้ลูกโทษนำเร็ว รวมทั้งยิงเม็ดสองปิดเกมในครึ่งแรกได้สำเร็จกระทั่งทำเอา เดส์ชองส์ อยู่เฉยไม่ได้ต้องเปลี่ยนสองตัวรุกลงบู๊ทันทีก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะจบลงโดยมี มาร์คุส ตูราม กับ แรนดัล โคโล่ มูอานี่ ได้ลงเล่นแทน ชิรูด์ กับ อุสมาน เด็มเบเล่ ที่ทำให้ทีมเสียลูกโทษจนแผนการล่นต้องพังครืนตั้งแต่หัววัน

สำหรับ เมสซี่ ซึ่งกดลูกโทษไม่พลาดทำให้ตนเองเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ สอยตาข่ายได้ในเกม ฟุตบอลโลก ทัวร์นาเมนต์เดียวกันทั้งยังในรอบแบ่งกลุ่ม , รอบ 16 ทีม , รอบแปดทีม ,รอบตัดเชือก แล้วก็นัดชิงชนะเลิศ อีกทั้งนำเป็นดาวซัลโวสูงสูดของทัวร์นาเมนต์ 6 ประตูด้วย

ต่อประตูที่นำหน้า ประเทศฝรั่งเศส 1-0 นับเป็นการมี ส่วนร่วมกับประตูในศึก ฟุตบอลโลก ทุกสมัยมากที่สุดเหนือนักฟุตบอลทุกรายของ เมสซี่ ด้วยเหมือนกันรวม 20 ประตู ซึ่งแบ่งเป็นการยิงได้ 12 ประตู และก็ 8 แอสซิสต์ นับตั้งแต่มีระบบ จดบันทึกสถิติเมื่อปี 1966 ฯลฯมา

ยิ่งกว่านั้น ยังมีการเผยผลงานของกัปตัน อาร์เจนไตน์ ในครึ่งแรกออกมาเช่นกัน

22 ผ่านบอล

34 สัมผัสบอล

1ประตู

1เข้าปะทะ

1สับไก

อาร์เจนติน่า เมสซี่

5.ปธ.เป้ คายพิษสง / อนาคต เดส์ชองส์?

เข้าครึ่งหลัง เกมยังเป็นของ อาร์เจนติน่า เหมือนเดิม ขาดก็แต่ประตูหนีห่าง ออกไปอีก แล้วก็กว่าที่ทีมเมืองน้ำหอม จะมีโอกาสสับไกครั้งแรกก็ต้องรออยู่นานจนถึงนาทีที่ 70 แต่ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ซัดโด่งข้ามคานไม่มีลุ้น แล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องที่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ จะต้องออกแรงปัดป้อง

อย่างไรก็ดี นับจากนั้นมันเป็นราวกับการจุดประกาย การนับหนึ่งให้ แชมป์เก่า พยายามพยายามหาโอกาสของตนเองต่อไป แล้วก็ประสบความสำเร็จกระทั่งได้เมื่อ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ทำฟาวล์ มูอานี่ จนถึงเสียลูกโทษ แล้วก็เป็น เอ็มบัปเป้ ที่สังหารไม่พลาดให้ ฝรั่งเศส ไล่ตาม 2-1 โดยเป็นการยิงประตูใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้ 6 ประตูเท่ากับ เมสซี่

เท่านั้นไม่พอ อีกพักเดียว เมสซี่ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ทีมตราไก่ได้ประตูตีเสมอ 2-2 อย่างน่าช็อกเมื่อเสียการครองบอลให้กับ คิงส์ลีย์ โกมัน ก่อนที่ ตูราม จะจ่ายคืนให้ เอ็มบัปเป้ เอี้ยว ตัววอลเลย์เข้าประตูจนกระทั่งเอาสาวก ฟ้าขาว ตาไม่กะพริบ และก็ทำให้สตาร์ทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง นำหน้าเป็นดาวซัลโว แต่เพียงแค่คนเดียว 7 ประตูจาก 7 เกม

หลังใช้เวลาแค่ 97 วินาที สองประตู เอ็มบัปเป้ ก็เลยกลายเป็นนักเตะคนแรก ที่ซัดได้สองตุงในเกมชิงดำ ฟุตบอลโลก ต่อจากที่ โรนัลโด้ ทำได้ด้วยการพา บราซิล สยบ เยอรมัน 2-0 ในปี 2002

ถึงตรงนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า โมเมนตัมเปลี่ยนมาเป็นของทีมจาก ยุโรปเต็มตัวแล้ว แต่หลังครบ 90 นาที อาร์เจนติน่า ชิงนำอีกคราวจากประตูของ เมสซี่ ซึ่งน่าจะเป็นประตูชัยของ อาร์เจนติน่า อย่างที่สุด

แต่ก่อนหมด ช่วงต่อเวลาพิเศษไม่กี่อึดใจ เอ็มบัปเป้ ทำให้ ประเทศฝรั่งเศส ได้ลูกโทษ แล้วก็เจ้าตัวจัดการไม่พลาดทำแฮททริคได้สำเร็จพร้อมเปลี่ยนสกอร์เป็น 3-3 นำเป็นดาวซัลโวอีกรอบ 8 ประตู

อย่างไรเสีย สุดท้ายแล้วเหมือนมีการเขียนสคริปต์ ให้มันเป็นนัดชิงชนะเลิศของ เมสซี่ เพราะว่าในช่วงดวลลูกโทษ ทีม ฟ้าขาว เอาชนะ ประเทศฝรั่งเศส ได้สำเร็จหากแม้ เอ็มบัปเป้ จะยิงให้ทีม เลส์ เบลอส์ นำหน้าก่อนก็ตามซึ่งเป็นการบอกลาทีมชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างตามที่เป็นจริงสำหรับยอดกองหน้าละติน

ขณะเดียวกัน หลังประสบกับความพ่ายแพ้ อนาคตของ เดส์ชองส์ จะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่น่าลุ้นด้วยเหตุว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่เขาจะต้องก้าวลงจากตำแหน่งโดยที่ว่ากันว่า ซีเนดีน ซีดาน ตำนานอีกรายของทีมชาติ ประเทศฝรั่งเศส พร้อมขันอาสาจับบังเหียนทีมตราไก่หลังจากเขาเฝ้ารอโอกาสนี้มาระยะหนึ่งแล้ว

ปธ.เป้

สำหรับ เมสซี่ หลังคว้าแชมป์ บอลโลก ได้เสร็จสมอารมณ์หมายก็มีการเปิดเผยสถิติส่วนตัวของเขาในเกมสยบ ฝรั่งเศส ออกมาดังนี้

85 สัมผัสบอล

2 ประตู

5 ง้างยิง/4เข้ากรอบ

1สร้างโอกาสครั้งสำคัญ

3 ผ่านบอลจังหวะเด็ดขาด

47/54 ความแม่นยำในการผ่านบอล

1 ประตูในการดวลลูกโทษ

ขณะเดียวกัน รวมแล้ว เมสซี่ สอยตาข่ายในรายการเมเจอร์ให้กับ อาร์เจนติน่า ไปทั้งสิ้น 26 ประตู แซงนำ โรนัลโด้ อดีตกองหน้าทีมชาติ บราซิล หนึ่งประตู (13 ประตูใน ฟุตบอลโลก และ 13 ประตูใน โกปา อเมริกา) เหนือกว่าพ่อค้าแข้งละตินทุกรายที่ผ่านการลงบู๊ในสองรายการใหญ่